ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า โพสลงประกาศฟรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลงประกาศฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 19 เมษายน 2025, 21:05:17 น.

หัวข้อ: ระวัง! ชานมไข่มุกกินมากๆ เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้!
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 19 เมษายน 2025, 21:05:17 น.
ระวัง! ชานมไข่มุกกินมากๆ เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้! (https://doctorathome.com/disease-conditions/278)

กินเยอะเหมือนเดิม แต่น้ำหนักลดฮวบ! แน่ใจนะคะว่าไม่ใช่ “อาการเบาหวาน” ?! หลายคนชะล่าใจกับโรคเบาหวาน ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลาย ๆ อย่าง มักก่อให้เกิดโรคเบาหวานแบบไม่รู้ตัว แถมเมื่อเป็นแล้วยังรักษาไม่หายขาดด้วย ลองมาเช็ก 10 อาการเบาหวานเริ่มต้น จนถึงระยะอันตราย เพื่อที่จะได้สังเกตตนเองและคนในครอบครัวค่ะ

    ปัจจุบัน พบคนไทยเป็นโรคเบาหวานกว่า 5.2 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานเฉลี่ย 200 คน/วัน

Checklist! 10 อาการเบาหวานเริ่มต้น

เนื่องจากเบาหวานระยะแรกนั้น แทบจะไม่มีความรุนแรง จึงมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าครึ่ง มักไม่รู้ตัว ว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน และเข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถดูแลรักษาตัวเองได้ทัน จนกลายเป็นเบาหวานแบบไม่รู้ตัว โดยอาการเบาหวานเริ่มแรกหรือเริ่มต้น ไปจนถึงระยะอันตราย สามารถสังเกตได้ ดังนี้

อาการเบาหวาน

    ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ตอนกลางวันมากกว่าวันละ 6-8 ครั้ง กลางคืนมากกว่า 1-2 ครั้ง (โดยเฉพาะคนที่ต้องตื่นมาฉี่หลังจากหลับไปแล้วหลายครั้ง)
    หิวน้ำบ่อย กระหายน้ำหรือขาดน้ำ
    กินจุมากขึ้น หิวบ่อย แต่น้ำหนักลดฮวบ
    รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หายใจเหนื่อยหอบ
    คลื่นไส้อาเจียน
    คันตามผิวหนัง
    เป็นแผลง่าย เป็นแล้วหายช้ากว่าปกติ
    สายตาพร่ามัว การมองเห็นแย่ลง
    ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
    ซึมลง หมดสติ

อยากรู้ว่าน้ำตาลในเลือดสูงไหม? ต้องตรวจด้วยเครื่องนี้!!!

โรคเบาหวาน เกิดจากอะไร?

         โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติทางร่างกาย เนื่องมาจากตับอ่อนมีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น และหากไม่ควบคุมระดับน้ำตาล อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้  ซึ่งสามารถแบ่งประเภทผู้ป่วยเบาหวานได้ ดังนี้


ชนิดของเบาหวาน

    เบาหวานชนิดที่ 1 ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
    เบาหวานชนิดที่ 2 ผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน (ภาวะดื้ออินซูลิน)
    เบาหวานชนิดที่ 3 เกิดจากกรรมพันธุ์หรือโรคบางอย่าง เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ ความผิดปกติของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต
    เบาหวานชนิดที่ 4 เกิดขณะตั้งครรภ์ แต่เมื่อคลอดแล้วเบาหวานก็จะหายไป แต่ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นเบาหวานซ้ำได้อีกในอนาคต

เตือน! เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภัยร้ายที่คุณแม่ทุกคนควรระวัง เสี่ยงอันตรายทั้งแม่และลูก!!!

สาเหตุโรคเบาหวาน

    ชอบทานอาหารรสจัด รสจัดในที่นี้ นอกจากหวานจัดแล้ว อาหารเค็มจัดและมันจัด ก็ทำให้เสี่ยงเป็นเบาหวานได้เช่นกัน เพราะอาหารเหล่านี้เมื่อทานมาก ๆ จะทำให้เสี่ยงเกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการเกิดโรคเบาหวาน เพราะฉะนั้นแล้ว การ กินของหวาน เสี่ยงเป็นเบาหวาน ได้นะคะ
    ความเครียด ความเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา และไปกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของน้ำตาล ดังนั้น เมื่อเราเครียดมาก ๆ ระดับน้ำตาลในเลือดก็ยิ่งสูงมากขึ้นนั่นเอง
    ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ตับทำงานหนัก และเกิดการสะสมของไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในตับ เกิดภาวะไขมันเกาะตับ ส่งผลให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน และการสูบบุหรี่ ยังทำให้การทำงานของอินซูลินแย่ลง เป็นสาเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั่นเอง
    ไม่ยอมออกกำลังกาย เพราะโรคเบาหวาน ทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินเป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่ การออกกำลังกายที่พอเหมาะ จึงช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลิน และควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้สูงขึ้นได้
    ปล่อยตัวเองให้อ้วน น้ำหนักเกิน ไขมันสะสม ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก จะมีระดับคอเรสเตอรอลสูงกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก และเสื่อมเร็ว ส่งผลให้ร่างกายผลิตอินซูลินได้น้อยลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากร่างกายไม่มีการนำเอาพลังงานจากน้ำตาลมาใช้ อาจเสี่ยงระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นเบาหวานในที่สุด

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

ในความเข้าใจของใครหลาย ๆ คน อาจคิดว่าโรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ต้องบอกเลยว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยอายุน้อยตั้งแต่ 15-25 ปีเป็นโรคเบาหวานมากขึ้นอย่างน่าตกใจ ดังนั้น ถึงแม้คุณจะอายุไม่ถึง 60 ปี ก็เสี่ยงมีอาการเบาหวานได้เหมือนกันค่ะ โดยเบาหวานแต่ละชนิด

โรคเบาหวาน สาเหตุ

    ผู้ที่ชอบทานกินเค็ม หรือหวานจัด และชอบของทอดของมัน (เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด)
    เป็นโรคอ้วน (ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่)
    อายุ 35 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันเบาหวาน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
    เป็นโรคความดันโลหิตสูง
    คนในครอบครัว (ทางสายเลือด) มีประวัติการเป็นเบาหวานมาก่อน
    ไม่ออกกำลังกาย
    สูบบุหรี่ ติดสุรา
    ตั้งครรภ์ ในบางคนโรคเบาหวานจะหายไปหลังคลอด แนะนำให้อ่าน : เตือน! เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภัยร้ายที่คุณแม่ทุกคนควรระวัง เสี่ยงอันตรายทั้งแม่และลูก!!!


หนึ่งวันควรกินน้ำตาลเท่าไหร่ ถึงจะไม่เสี่ยงเบาหวาน

น้ำตาลให้พลังงานก็จริง แต่ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็น จะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดีนะคะ โดยน้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับต่อวันนั้น ขึ้นอยู่กับอายุด้วยค่ะ เนื่องจากความต้องการพลังงานและความสามารถในการเผาผลาญนั้นต่างกัน ดังนี้ค่ะ

อายุ                  น้ำตาลที่เหมาะสม ต่อวัน   พลังงานที่ใช้ ต่อวัน

อายุ 6 – 13 ปี   ไม่เกิน 4 ช้อนชา            1600 kcal
อายุ 14 – 25 ปี   ไม่เกิน 6 ช้อนชา            2000 kcal
ผู้หญิง
อายุ 25 – 60 ปี   ไม่เกิน 4 ช้อนชา             1600 kcal
ผู้ชาย
อายุ 25 – 60 ปี   ไม่เกิน 6 ช้อนชา             2000 kcal
อายุ 60 ปี ขึ้นไป   ไม่เกิน 4 ช้อนชา             1600 kcal
ผู้ที่ต้องใช้พลังงานมาก
(เช่นนักกีฬา)   ไม่เกิน 8 ช้อนชา   2400 kcal


ในปัจจุบัน คนไทยจำนวนมาก กินน้ำตาลเยอะขึ้นทุกวันโดยไม่รู้ตัว เห็นได้จากชานมไข่มุก ที่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทย รู้หรือไม่คะว่า ในหนึ่งแก้วมีน้ำตาลสูงถึง 8 – 11 ช้อนชา! แม้จะรู้ว่าน้ำตาลสูงแค่ไหน แต่หลาย ๆ คนก็ยังคงเลือกที่จะดื่มมันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ แต่ยิ่งดื่มมาก ๆ ก็ยิ่งเสี่ยงเป็นเบาหวานได้

โรคเบาหวาน สาเหตุ

เห็นได้จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ผลตรวจของหญิงวัย 46 ปีรายหนึ่ง ที่มีระดับน้ำตาลสูงจนน่าตกใจ จากการซักถามประวัติพบว่า “เธอดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำทุกวัน ทำให้เธอเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด” และนั่นก็เป็นอาการเบาหวาน ซึ่งมาจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูงมาก โรคเบาหวาน สาเหตุ หนึ่งก็เกิดมาจากการทานของหวานนี่แหละค่ะ ดังนั้นของหวานถ้าเลิกไม่ได้ก็ควรบริโภคแต่พอดีนะคะ

อีกหนึ่งความเชื่อที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน คือ “เบาหวานไม่เห็นน่ากลัว เป็นแล้วเดี๋ยวก็หาย ใคร ๆ ก็เป็น” ขอบอกเลยค่ะว่าเป็นความเชื่อที่ผิด! เพราะในความเป็นจริงแล้ว เบาหวานเป็นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถดีขึ้นได้หากควบคุมระดับน้ำตาล และได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ

หลายคนมีพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่มีประวัติการเป็นเบาหวานมาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสิทธิ์เป็นเบาหวานนะคะ


กินน้ำตาลอย่างไร ให้ห่างไกลเบาหวาน

แม้จะรู้ว่าโรคเบาหวาน สา่เหตุ มาจากพฤติกรรมการทานอาหาร โดยเฉพาะของหวานที่หลายคนไม่สามารถหยุดทานได้ใช่ไหมล่ะคะ จริง ๆ น้ำตาลไม่ใช่ของต้องห้ามนะคะ เพราะร่างกายเองก็ยังคงต้องการน้ำตาลอยู่ เพียงแต่เราต้องควบคุมปริมาณให้เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ โดยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาล เพื่อเลี่ยงเบาหวานได้ ดังนี้


วิธีป้องกันโรคเบาหวาน

    เลือกทานอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เพราะอาหารเหล่านี้ มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง
    เลือกเครื่องดื่มที่มีสูตรน้ำตาลน้อย หรือไม่ผสมน้ำตาลแทน
    หลีกเลี่ยงการทานผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ลำไย
    จำกัดปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน

สรุป โรคเบาหวาน

แม้พันธุกรรม เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เสี่ยงทำให้เป็นเบาหวาน แต่รู้หรือไม่ว่า โรคเบาหวาน สาเหตุ หลัก ๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราเอง ที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน หากใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหมดนี้ หมั่นสังเกตอาการเบาหวาน และรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองตั้งแต่วันนี้ ดีกว่ามานั่งรักษาไปตลอดชีวิตนะคะ