วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer BioNTech COVID-19 Vaccine: BNT162b2)วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer BioNTech COVID-19 Vaccine/ BNT162b2) เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (COVID-19) ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ที่ผลิตจากชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 โดยวัคซีนจะไปกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างโปรตีนหนาม (Spike Protein) ซึ่งพบบนผิวของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกัน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19
วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคมีชื่อทางการว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ร่วมกันพัฒนาขึ้นกับบริษัทไบออนเทค (BioNTech) และจดทะเบียนในชื่อทางการค้าว่า โคเมอร์นาตี (Comirnaty) โดยวัคซีนนี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้อย่างเต็มรูปแบบในผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และเริ่มอนุมัติใช้กรณีฉุกเฉินในเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนนี้เรียบร้อยแล้วในช่วงอายุดังกล่าว
*บทความนี้จะเรียกวัคซีน BNT162b2 แทนเป็นวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค*
เกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค
กลุ่มยา วัคซีนป้องกันโรค
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19
กลุ่มผู้ป่วย เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาฉีด
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร ยังไม่มีการจัดหมวดหมู่ของยาชนิดนี้จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FDA เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลการศึกษาผลกระทบต่อมารดาหรือทารกในครรภ์ที่แน่ชัด ดังนั้น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ วางแผนการตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค
คำเตือนในการใช้วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค ผู้รับการฉีดวัคซีนควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีประวัติได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่นมาก่อน หากได้รับวัคซีนใด ๆ มาแล้ว 1 เข็มและต้องการวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเป็นเข็มที่ 2 ให้เว้นระยะเวลาตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก
ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด 19 และไม่เคยได้วัคซีนมาก่อน สามารถรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค โดยรับวัคซีนเข็มแรกหลังจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน
ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนประกอบใด ๆ ของวัคซีน ไม่ควรฉีดวัคซีนชนิดนี้เพราะอาจทำให้อาการแพ้กำเริบ
ผู้ที่มีปฏิกิริยาแพ้รุนแรง มีอาการแพ้อย่างฉับพลันหลังได้รับวัคซีนเข็มแรก ไม่ควรได้รับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเข็มต่อไป
ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีสภาวะต่าง ๆ เช่น มีประวัติเป็นลมหลังได้รับวัคซีน โรคภูมิแพ้ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดใด อย่างโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) และมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดวัคซีน
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Blood Thinners) และยาที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
ผู้ที่มีไข้สูงหรืออาการติดเชื้อเฉียบพลัน ควรรอให้หายดีก่อนจึงค่อยฉีดวัคซีน แต่หากเป็นหวัดหรือมีไข้ต่ำสามารถฉีดวัคซีนได้
ในปัจจุบัน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ควรฉีดวัคซีน เนื่องจากไม่อาจยืนยันถึงผลดีและผลเสียหลังได้รับวัคซีน แต่อาจมีการอนุมัติให้ใช้ได้ในภายหลัง
ปริมาณการฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค
ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะได้รับวัคซีนทั้งหมด 2 เข็ม โดยฉีดวัคซีนเข้าใต้ชั้นกล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน ครั้งละ 0.3 มิลลิลิตร (หลังเจือจางแล้ว) และควรรับการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 2 หลังจากการฉีดเข็มแรก 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคในเข็มแรกควรรับการฉีดกระตุ้นในเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเช่นเดิม
การฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค
วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคต้องฉีดโดยแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น โดยก่อนเข้ารับวัคซีนควรแจ้งโรคประจำตัว ภาวะผิดปกติ หรืออาการแพ้ใด ๆ ให้แพทย์ทราบเพื่อประเมินความเสี่ยงในการรับวัคซีน และควรไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามนัด เพื่อช่วยป้องกันการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ควรฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ก่อนวันนัดหมาย และสามารถเลื่อนระยะเวลาการฉีดออกไปได้นานที่สุดไม่ควรเกิน 42 วัน หรือ 6 สัปดาห์
ในกรณีที่ลืมไปตามนัด ไม่จำเป็นต้องเริ่มฉีดเข็มที่ 1 ใหม่ แต่ควรแจ้งสถานพยาบาลนั้น ๆ เพื่อไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 โดยเร็วที่สุด และหากมีอาการรุนแรงหรืออาการผิดปกติใด ๆ หลังฉีดวัคซีน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
หลังการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในช่วง 7 วันถึง 6 เดือน วัคซีนนี้จะมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 สูงสุดอยู่ที่ 91.3% ลดความรุนแรงของโรคได้ 97% สามารถป้องกันและลดความรุนแรงของการติดเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ อย่างสายพันธุ์เดลตา (Delta) สายพันธุ์อัลฟ่า (Alpha) และสายพันธุ์เบต้า (Beta) ได้
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค
วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้ที่รับการฉีดวัคซีนบางราย โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังฉีดวัคซีน 1–2 วัน ได้แก่ ปวดหรือบวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน อ่อนเพลีย หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อและข้อ มีไข้ คลื่นไส้และอาเจียน ซึ่งอาการเหล่านี้มักดีขึ้นภายใน 2–3 วันหลังมีอาการ
สำหรับบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย เช่น
รู้สึกไม่สบายและคันบริเวณที่ฉีด
ต่อมน้ำเหลืองโต (Lymphadenopathy)
อาการผิดปกติบนผิวหนัง เช่น ผื่น ลมพิษ และแองจีโออีดีมา (Angioedema)
นอนไม่หลับ
ปวดแขนและขา
นอกจากนี้ บางรายอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น อาการอัมพาตเฉียบพลันที่ใบหน้า (Acute Peripheral Facial Paralysis) อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งพบได้น้อยมาก
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมทันที